ข้อมูล Encephalartos woodii

ข้อมูล Encephalartos woodii แปลในหนังสือ South africa

สายพันธุ์นี้ได้อธิบายในปี ค.ศ.1908 โดย Sander ในตำราของ John Medley Wood ผู้ซึ่งทำงานใน Natal State Herbarium ใน Durban เขาได้ค้นพบสายพันธุ์นี้ขึ้นชื้อ Encephalartos woodii ได้มีการบันทึกจากธรรมชาติ เขาอยู่ในกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ตอนนั้น

Habitat

สายพันธุ์นี้เป็นสายพันธุ์ที่มีแต่ Male Cones เท่านั้น “The male plant” ค้นพบโดยนักวิทยาศาสตร์ John Medley Wood ของ The Durban Botanical garden ในปี 1895 มันเติบโตในความลาดชันของพื้นที่ Ngoye forest of Kwazuzu-natal หน้าร้อนจะอบอุ่นและมีความชื้นสูงในพื้นที่และหน้าหนาวจะมีลมอ่อนๆแต่ไม่มีน้ำแข็งเกราะ และฝนจะตก 750-1000 มิลลิเมตรต่อฤดูและจะตกส่วนใหญ่ในหน้าร้อน

Cultivation

มันเป็นสายพันธุ์หนึ่งของ South Africa โดย Encephalartos Woodii มีสิ่งที่พบคือมี Cone เป็นจำนวนมากและมีการเติบโตที่เร็วมากภายใต้สภาวะที่เหมาะสม มันจะผลัดใบใหม่ทุกฤดูกาล มันจะเติบโตได้โดยแสงแดดอ่อนๆ หรือแสงแดดเต็มและไม่มีอันตรายถ้ามีน้ำแข็งมาเกาะเล็กน้อย

ลำต้น(Stem)

ลำต้นตั้งขึ้นไปในอากาศ มีกิ่งก้านใหญ่เหนือระดับพื้นดิน เป็นไม้ขนาดใหญ่มันจากมีตาเพื่อจะขยายไปเป็นกิ่งก้านต่อไปบนลำต้น ซึ่งจะเหมือน Encephalartos Transvenosus ซึ่งสายพันธุ์หลายชนิดก็จะมีหน่อเกิดขึ้นที่ลำต้น ลำต้นสามารถสูงได้ 6 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลาง 900 มิลลิเมตร และที่ปลายยอด 600 มิลลิเมตร

ใบ(Leaves)

ใบเป็นสีเขียวแก่บนหน้าใบ และเป็นสีเขียวอ่อนที่หลังใบ ใบย่อยจะโค้งลงเปรียบเสมือน (ร่ม) ใบอ่อนจะปกคลุมด้วยขนสีน้ำตาลที่บนผิวจะปรากฎให้เห็น เมื่อพืชจะออกใบใหม่มาตามฤดูกาล และชุดเก่าหนึ่งชุดจะเริ่มทิ้งใบอย่างรวดเร็ว ใบมีความยาว 1.75-2.50 เมตร

มีค่า pp-angle 60°-110° ที่ปลายใบ และ มีค่า 120°-180°ในส่วนถัดมาของใบไปในทิศใบล่างที่ลงสู่โคนก้านใบไปทาง petiole

มีค่า pr-angle เพิ่มจาก 30°-50° ที่ปลายใบ จนเป็น 70°-90° ในส่วนถัดมาของใบไปในทิศใบล่างที่ลงสู่โคนก้านใบไปทาง petiole

มีค่า s-angle จะอยู่  +40° ถึง 65° ที่ปลายใบ ประมาณ 0° ถึง -10°ในส่วนถัดมาของใบไปในทิศใบล่างที่ลงสู่โคนก้านใบไปทาง petiole

ใบย่อยจะมีมากและจะถูกปกคลุมโดยใบอื่นปกคลุมแบบใบล่างทับใบบนมาได้ถึงครึ่งใบ

Petiole ยาว 130-200 มิลลิเมตร

Medium leaflets ยาว 200-250 มิลลิเมตร กว้าง 40-50 มิลลิเมตร ใบลักษณะหยาบแต่ไม่มีปุ่มเกิดขึ้นที่ผิวใบ ขอบใบย่อยไม่หนา แต่ว่าจะมีเส้นเล็กๆทะแยงเกิดขึ้นที่ใบด้านล่างของก้านใบ(Base leaflets) ตามขวางที่ผิวใบจะเรียบมีเส้นทะแยงคล้ายลูกคลื่นตรงใบด้านล่างของก้านใบและนูนออกมาตามแนวยาว ขอบนอกของใบย่อยจะเกลี้ยงเกลา และปลาบใบทั้งหมดจะมีลักษณะตรง The medium leaflets ใบของหน่อที่ยังเล็กอยู่ที่เกิดขึ้นจะแตกต่างจากต้นใหญ่  โดยใยมันจะสั้น กว้างและมีลักษณะเป็น Lobes หนามแหลมๆ

Basal leaflets (โคนก้านใบย่อยทั้งหมด)

โดยทางแนวราบเหมือน S-Shape มีเว้าข้างด้านบนที่ปลายใบย่อยและนูนออกมาที่พื้นใบ(Leaflet Basal)   Basal leaflets ลดขนาดลงถึงโคนและหนามแบบ Lobes มีหนามที่ปลายแหลม ก่อนที่ใบจะลดลงครั้งแรกและกลายเป็นใบลดรูปที่มีหนามคล้ายหลายง่าม (Multipronged pinnacanths) หลังจากนั้นก็เป็นหนามแบบธรรมดาไป

Cone โดยธรรมดาจะปรากฎในเดือน มกราคม

Male cones  หลังจากลำต้นผลิตมาได้ 4-6 Conesต่อฤดู  แต่บางทีก็ผลิตออกมาได้ 10-15 cone ในบางครั้งซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ไม่ปกติ และบางทีได้มากถึง 21 Cones ต่อฤดูเลยก็มีในบันทึก Conesจะเป็นสีส้มเหลืองและลำต้นเป็นที่รู้กันว่าผลิตCones 2 ครั้งต่อปี Cones มีความยาว 400-1200 มิลลิเมตร เส้นผ่านศูนย์กลาง  150-220 มิลลิเมตร ก้านCone(peduncle) ยาว 200-210 มิลลิเมตร น้ำหนักสดเมื่อตัดออกมาชั่งได้ 7.8-8.2 กิโลกรัม มี 590-690 sporophylls   Pollen shedding จะเกิดในช่วง เดือน พฤษภาคม-สิงหาคม

Female Cones ไม่มีระบุ

Seeds  ไม่ระบุ

Seed Kernals  ไม่ระบุ

Note

แม้จะมีการศึกษาทั่วไป ไม่มีสายพันธุ์อื่นนอกจากสายพันธุ์นี้ที่เกิดใน Ngoye forest และรอบๆแถวๆนั้น Encephsalartos woodii ที่มีอยู่ทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งของการโคลนที่ถูกแพร่พันธุ์ออกไปจากต้นแม่ที่อยู่ที่ Ngoye ค้นพบโดยนาย Wood จากข้อมูลที่ค้นพบในสายพันธุ์นี้

มันประมาณได้ว่า Encephalartos woodii ที่ถูกโคลนประมาณ 500 ต้นทั่วโลก และหวังว่าหนึ่งในนั้นภายใต้การผสมทางวิทยาศาสตร์ จะผลิตเพศที่จะทำให้เกิดเมล็ด นักค้นคว้าพยายามในการศึกษา Encephalartos woodii เพื่อที่จะได้ Female แต่การผลิต Female ของ Encephalartos woodii เพื่อให้เกิด Pollen ของสายพันธุ์นี้จำเป็นต้องมีการผสมกับสายพันธุ์อื่นที่ใกล้เคียง เช่น Encephalartos natalensis , Encephalartos transvenosus , Encephalartos woodii เรียกว่า  Hybrid woodii ทำให้เกิดเมล็ดทั้งเมล็ด hybid woodii(F1) มีทั้งโตขึ้นมาจะมี male cone(F1) และ female cone(F1)มีความคล้าย 50% แล้วนำ

Encephalartos woodii(Ngoye)xEncephalartos woodii female cone(F1) = female cone(F2)มีความคล้าย 75%

Encephalartos woodii(Ngoye)xEncephalartos woodii female cone(F2) = female cone(F3)มีความคล้าย 87.5%

Encephalartos woodii(Ngoye)xEncephalartos woodii female cone(F3) = female cone(F4)มีความคล้าย 93.75%

Encephalartos woodii(Ngoye)xEncephalartos woodii female cone(F4) = female cone(F5)มีความคล้าย 96.875%

Encephalartos woodii พอมาถึง F5 ในทางพฤษศาสตร์จะยอมรับความเหมือนในสายพันธุ์นั้นได้

Encephalartos woodii จะมีลักษณะคล้าย Encephalartos natalensis อย่างไรก็ตามมันสามารถพิจารณาจากใบ เมื่อตอน Encephalartos woodii ต้นไม้ยังอายุน้อยใบจะมีการโค้งลง และ Medium leaflet โดยตามขอบใบจะและปลายใบทือมน The Medium leaflet ของหน่อใหม่จะออกใบเปลี่ยนรูปแบบได้หลายแบบ ใบจะกว้าง 50-60มิลลิเมตร  และก็มี Lobedแบบเดียวกัน

ส่วนใบของ Encephalartos natalensis จะมีความกว้าง 25-40 มิลลิเมตร มีขอบใบทั้งหมดเหมือนกันหรืออาจจะมีฟันแหลมแข็งๆขึ้นที่ด้านเดียวหรืออาจขึ้นได้ทั้งสองด้าน แต่ว่าจะไม่มี lobed และปลายก็จะไม่ทือแต่จะแหลม

มีพืชที่เป็นเพศผู้ที่มีลักษณะที่คล้ายกับ Encephalartos woodii จาก Ngoye ที่ค้นพบโดย พื้นที่ Krantzkloof ระหว่าง Durban  และ Pietermaritzburg ใน KwaZulu-Natal    เหมือนกว่าปรงทุกชนิด  เมื่อพิจารณาสายพันธุ์ที่มาจาก Krantzkloof จะมีความเหมือน  Encephalartos woodiiของแท้มากที่สุด ในการเปรียบเทียบลักษณะทางสัณฐานโดยการศึกษาจากใบ จากที่ Osborne และ Baijnath(1995) ที่ทำไว้ อย่างไรก็ดีเอาเป็นว่า สายพันธุ์ที่มาจาก Krantzkloof มันเกิดขึ้นระหว่าง Encephalartos woodii จาก Ngoye และ Encephalartos natalensis ทั้งหมดนี้ถูกใช้ในการศึกษา พบว่าหน่อของสายพันธุ์ที่มาจาก Krantzkloof  ได้พบว่ามาจากนักสะสมทั่วไปและการโคลนนิ่งอย่างหลายครั้ง( Encephalartos woodii  F1,F2,F3,F4,F5) และทำให้เป็นหนึ่งในปัญหาที่มีความเห็นแตกต่างระหว่าง Encephalartos woodii จาก Ngoye(ของแท้) กับ สายพันธุ์ที่มาจาก Krantzkloof clones

© 2000:Mr.Prince Farm, All Rights Reserved | Awesome Theme by: D5 Creation | Powered by: WordPress